คมความคิดจากหนังสือนั่งรถไฟไปตู้เย็น
สำนักพิมพ์ a bookโดย นิ้วกลม
โดย adam
โดย adam
คนเรามักจะเลือกมองโลกและคัดสรรสิ่งที่อยากบันทึกเสมอ เมื่อเราเล็งกล้องส่องไปที่ทิวทัศน์ เราจะขยับจนพอใจว่าได้ “กรอบ”ของภาพที่สวยที่สุดแล้วกดปุ่มเก็บมันกลับบ้าน เวลาเก็บความรู้สึกหรือความคิดก็เป็นเช่นกัน ยามที่เราเขียนสิ่งต่างๆระหว่างทางลงไปเรามักจะเก็บสิ่งที่เราชื่นชมหรือชื่นชอบและความรู้สึกดีๆกลับบ้านไปพร้อมสมุดบันทึกเล่มนั้น
สำหรับผมแล้วสมุดบันทึกคือตัวเราอีกคนหนึ่ง เพียงแค่มันเป็นฝ่ายฟัง ฟังเงียบๆ ให้เราได้พูดคุยกับตัวเอง ไม่ว่าเรื่องร้ายหรือดี เมื่อเราคุยกับมันเราจะกล้าพูดทุกสิ่งทุกอย่างที่คิดและรู้สึก เพราะเราย่อมไว้ใจตัวเองและไม่อายที่จะแสดงความอ่อนแอให้ตัวเองเห็น
สมุดบันทึกยามเดินทางมักจะเก็บสิ่งสวยงามกลับบ้านแต่สมุดบันทึกประจำวันอาจมีเรื่องมากมายปะปนกันไปทั้งร้ายดี เพราะขึ้นชื่อว่า ”ประจำวัน” ย่อมมีทั้งดีและร้าย แต่ถึงอย่างไร สมุดบันทึกมักจะส่งผลกระทบจิตใจของเราเสมอทุกครั้งที่หวนกลับมาอ่านมันอีกครั้งเมื่อเวลาผ่าน ยิ่งยาวนานมันมันยิ่งแสดงความจริงให้เห็น
เป็นความจริงสองสิ่งที่จริงแท้อย่างยิ่ง
หนึ่ง คือไม่ว่าเรื่องดีหรือร้าย สุดท้ายเราก็ผ่านมันมาได้ กระทั่งถึงวันนี้ สุดท้ายมันก็ไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป
ความรู้สึกที่สองเมื่อเรากลับไปอ่านบันทึกวันเก่าๆมันบอกกับเราเสมอว่า อย่าไปคาดหวังให้ใครหรืออะไรเป็นอย่างนั้นเสมอไป เพราะกระทั่งตัวเราเองในวันนั้นที่เคยบันทึกเก็บไว้กับวันที่หายใจอยู่ก็ยังเปลี่ยนไปมากมาย
ผมว่าชีวิตมีส่วนคล้ายกับรถไฟ เราได้แต่เคลื่อนที่ไปข้างหน้ามีสิ่งสวยงามผ่านเข้ามาแต่เราหยุดมันไว้ไม่ได้ แต่อย่างน้อยเราก็ได้เห็นได้สัมผัสมัน กระทั่งได้บันทึกเก็บไว้ในใจ
บางครั้งผมจึงคิดว่า ชีวิตเป็นการบันทึกเรื่องราวดีๆ เพื่อที่จะกลับมาอ่านตอนที่เราผ่านมันไปแล้ว....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น