วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

EM จุลินทรีย์ แก้น้ำเน่า จริงหรือ.....

EM จุลินทรีย์ แก้น้ำเน่า จริงหรือ.....





                เป็นกระแสวิภาควิจารณ์กันอย่างกว้างขวางพอสมควร ระหว่างกลุ่มนักวิชาการทางด้านวิทยาศาสตร์ กับกลุ่มที่ใช้ EM Ball แล้วได้ผลในการแก้ไขน้ำเน่าเสีย  จากปัญหาอุทกภัยน้ำท่วมที่เกิดขึ้น หลายๆแห่งน้ำเริ่มมีกลิ่นและเน่าเสียน้ำที่ท่วมขังเป็นเวลานาน จนทำให้เกิดกระแสการแก้ไขน้ำเสียด้วยEM Ball เป็นการเฉพาะหน้า EM Ball แก้ปัญหาน้ำเน่าเสียได้จริงหรือ t-news urbanitesฉบับนี้ เรามาทำความรู้จัก EM Ball คืออะไร  จุลินทรีย์ที่ ชาวบ้านเชื่อว่าแก้ไข้น้ำเสียได้แต่นักวิชาการออกมาปฎิเสธว่าแก้ไขน้ำเน่าไม่ได้เรามาฟังทัศนะของนักวิชาการและประสบการณ์กลุ่มที่ใช้ได้ผลเหล่านั้นกัน
                E.M. ย่อมาจากคำว่า Effective Micro-organisms หมายถึง กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ คิดค้นพบโดย ศาสตราจารย์ ดร.เทรุโอะฮิงะ (TEROU HIGA) แห่งมหาวิทยาลัยริวกิว เมืองโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น โดยใช้เทคนิคทางชีวภาพ รวบรวมเฉพาะกลุ่มจุลินทรีย์ หมวดสร้างสรรค์ที่มีอยู่ในธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ ช่วยปรับปรุงสภาพความสมดุลของสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น จุลินทรีย์หมวดสร้างสรรค์ที่มีใน EM ได้แก่ กลุ่มจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง แลกโตบาซิลัส เพนนิซีเลี่ยม ไตโคเดอมา ฟูซาเรียม สเตรปโตไมซิสอโซโตแบคเตอ ไรโซเบียม ยีสต์  รา  ฯลฯ
จุลินทรีย์ใน EM ส่วนใหญ่เป็นจุลินทรีย์ที่ไม่ต้องการอากาศ และมีพลัง แอนติออกซิเดชั่นซึ่งเป็นพลังสร้างสรรค์ของชีวิต ป้องกันมิให้มีการทำลายชีวภาพที่สำคัญของ เซลล์ได้ป้องกันฤทธิ์ของสารพิษได้หลายชนิด รักษาสภาพธรรมชาติของเซลล์ได้มิให้เสื่อมสภาพรักษาสุขภาพของคนและสัตว์ มิให้เป็นโรคหรือเจ็บป่วยได้ง่าย
ลักษณะโดยทั่วไปของ EM
เป็นของเหลวสีน้ำตาลกลิ่นหอมอมเปรี้ยวอมหวาน เกิดจากการทำงานของกลุ่มจุลินทรีย์ต่าง ๆ ใน E.M.เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีชีวิต ไม่สามารถใช้ร่วมกับสารเคมีหรือ ยาปฏิชีวนะและยาฆ่าเชื้อต่าง ๆ ได้ ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต เช่น คน สัตว์ พืช และแมลงที่เป็นประโยชน์ ช่วยปรับสภาพความสมดุลของสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ ที่ทุกคนสามารถนำไปเพาะขยายเพื่อช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง
ลักษณะการผลิต
                เพาะขยายจากจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์มากกว่า 80 ชนิด จากกลุ่มจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงกลุ่มจุลินทรีย์ผลิตกรดแลคติค กลุ่มจุลินทรีย์ไนโตรเจน กลุ่มจุลินทรีย์แอคทีโนมัยซีทส์ กลุ่มจุลินทรีย์ยีสต์  ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่ได้จากธรรมชาตินำมาเพาะเลี้ยงและขยายให้จุลินทรีย์ขยายตัวด้วยปริมาณที่สมดุลกันด้วยเทคโนโลยีพิเศษ โดยใช้อาหารจากธรรมชาติ เช่น โปรตีน รำข้าว และสารประกอบอื่น ๆ ที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต

ศาสตราจารย์ กิตติคุณ ดร.ธงชัย พรรณสวัสดิ์ อดีตอาจารย์ ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เราต้องรู้ก่อนว่า น้ำ EMกับน้ำหมักชีวภาพมันต่างกันอย่างไร คำว่าEMมันมาจากภาษาอังกฤษว่า Effective Microorganisms มันมีสองนัยยะ1.มันเป็นชื่อเฉพาะของยี่ห้อนี้ และ 2.ถ้าคุณพูดถึงชื่อ Effective Microorganismsก็เป็นคำทั่วไปมันก็คือจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพในการทำงาน จุลินทรีย์ทุกอย่างมันมีประสิทธิภาพในการทำงานทั้งนั้น แต่น้ำหมักชีวภาพมันก็มีเชื้อที่ Effective เหมือนกัน มีประสิทธิภาพแต่เป็นเชื้อคนละตัว เพราะฉะนั้นEffective Microorganismsมันเป็นชื่อรวมทั่วๆไป ทุกอย่างมันมีประสิทธิภาพทั้งนั้นอยู่ที่ว่าจะใช้งานอย่างไร
EM มันมีทั้งน้ำและลูกบอล คนมักจะพูดถึง EM Ball เพราะตอนนี้กระแสมันคือ EM Ball มันคือรูปแบบหนึ่งที่ใช้ EMในน้ำ เมื่อทิ้งแล้วมันจมลงในน้ำมีโอกาสที่จะไม่แพร่กระจายไปมีคนบอกว่าถ้าใส่EM ลงไปในน้ำ น้ำก็จะพัดไปทำให้ EMมันหายไป ก็เลยทำเป็นลูกบอลมันก็อยู่ที่ตรงนี้ กรณีที่ใช้EM ได้ ก็คือเมื่อดินมันไม่ดีเป็นดินที่ไม่มีแบคทีเรีย ไม่มีจุลินทรีย์แล้วเติม EM ลงไปเติมจุลินทรีย์ลงไป ฉะนั้นเมื่อจุลินทรีย์มันไปย่อยเศษพืชจะทำให้เป็นสารอาหารให้กับพืชแน่นอนต้นไม้ต้องดีขึ้นเพราะทำธาตุอาหารให้มัน
แต่ถ้าเกิดว่า คุณขยายผลไปในเรื่องการบำบัดน้ำเสีย อันนี้ต้องคิดใหม่แล้ว ตอนนี้กำลังเป็นกระแสของสังคมไทยในภาวะน้ำท่วม ทุกคนอยากจะทำอะไรสักอย่างในการแก้ปัญหาน้ำเน่าก็โยนลงไปเพื่อจะทำให้น้ำมันหายเน่า สิ่งที่ผมอยากบอกสังคมไทยว่า มันต้องระวังนะต้องคิดรอบคอบว่า ผมไม่เชื่อว่าโยน EM Ball ลงไป หรือว่าเอาน้ำEM ใสลงไปจะทำให้น้ำหายเน่า
 ผมมีเหตุผลอยู่สองอย่าง หนึ่ง ก็คือเรื่องของตัวมันเอง ผมคิดว่ามันไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำเน่าได้อันที่สอง สมมุติว่ามันแก้ปัญหาน้ำเน่าได้ คุณทิ้งลงไปในน้ำท่วมตอนนี้มีน้ำท่วมอยู่เป็นหมื่นล้านลูกบาศก์เมตร คุณทิ้งลงไปเท่าไรมันถึงจะทำให้หายเน่าได้ เป็นไปไม่ได้เลยถึงแม้ว่ามันจะใช้งานได้คุณก็ไม่สามารถทำให้มันมากพอที่จะใช้งานได้ ถ้าน้ำที่มันอยู่ตรงนั้น มันนิ่งมันมีสารอินทรี มันมีขยะมันต้องเน่า แล้วจะมาบอกว่าพอโยนลงไปแล้วเพื่อให้มันหายเน่าสำหรับผมเป็นไปไม่ได้
ที่บอกเป็นไปไม่ได้เพราะอะไร EM ไม่ว่าจะเป็นบอลหรือน้ำทำมาจากอะไร ทำมาจากน้ำตาลแล้วเอาหัวเชื้อใส่เข้าไป หัวเชื้อก็จะเจริญเติบโตขึ้นมาเยอะๆ อันนี้คือข้อดี แต่ถามว่าในแหล่งน้ำที่มันเน่าอยู่มันมีจุรินทรีไหม มีเยอะด้วย เอาตัวนี้เติมไปที่เค้าเรียกว่าพระเอก เอาพระเอกเติมไป ส่วนน้ำเน่าเค้าเรียกว่าผู้ร้าย เมื่อเอาพระเอกเติมไปเยอะๆก็ไปสู้กับผู้ร้ายจนผู้ร้ายตายไป น้ำก็เลยสะอาด ตอนนี้ผู้ร้ายมันมีเป็นล้านๆ พระเอกมีอยู่ยี่สิบตัวลงไปก็ตายหมดไม่มีทางชนะหรอก เข้าใจนะครับ ว่า 1.ผมยังไม่เชื่อว่ามันเวิร์ค2.ถ้ามันเวิร์คในปริมาณนี้ผมว่ามันใช้ไม่ได้
แต่สิ่งแวดล้อมมันมีสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ และสิ่งแวดล้อมทางสังคม เราพูดสายวิชาการทางวิศวะทางเทคโนโลยีเรามักจะมองทางกายภาพไม่มองทางด้านสังคม เรื่องของสังคมคืออะไรคือเรื่องของจิตใจ ในภาวะน้ำท่วมอย่างนี้เราจะเอาวิชาการอย่างเดียวไปจับโดยบอกว่า EM Ball ไม่ดีอย่างนี้ แต่ในความรู้สึกของคนอยากจะทำอะไรสักอย่างในขณะนี้ ทำไปเถอะทำไปถ้าทำแล้วสบายใจ เพราะเป็นการช่วยกันทำ ทำอะไรก็ทำถ้ามันทำให้เกิดความสามัคคีในชาติได้ ผมว่ามันเป็นสิ่งประเสริฐสุดแล้ว แต่อย่าไปหลงประเด็นว่าทิ้งลงไปแล้วน้ำมันจะหายเน่า ถ้าทำด้วยกับความสบายใจทำด้วยกับความสามัคคีกันในชาติทำให้มีการส่วนรวมทำให้ดีขึ้นทำเถอะ ถ้ามองไปว่ามันแก้ปัญหาน้ำเน่าได้จริงคงเป็นไปไม่ได้
เรื่องความเชื่อEM ตอนนี้มีเยอะด้วย การที่ผมออกมาพูดในตอนนี้จะถูกกระแสสังคมกระหน่ำ แต่ในฐานะที่เราเป็นคนที่มีความรู้ของประเทศเป็นที่ชี้นำประเทศในเชิงวิชาการ เราต้องลุกขึ้นมาพูด บอกว่ามันไม่ใช่ ไม่งั้นประเทศจะหลงทาง แล้วประเทศจะอยู่บนเงื่อนไขของสังคมของความเชื่อไม่ใช่สังคมของความรู้ ประเทศใดก็ตามแต่อยู่ด้วยความเชื่อโดยไม่ใช้ความรู้ประเทศนั้นไปไหนไม่ได้ ออกความคิดเห็นต่างกันได้ แต่ความรู้คือความรู้ความจริงคือความจริง
ชั่งให้ดีระหว่างความเชื่อกับความรู้ จากความเชื่อจะทำสิ่งที่เป็นอะไรก็ตามแต่ในช่วงเหตุการณ์อย่างนี้ ผมยังว่าทำเถอะนะทำไป แต่อย่าเอาความคิดแบบนี้ไปครอบนำจนกระทั้งว่าต่อไปในอนาคตของประเทศ ระบบน้ำเสียในเมืองไทยไม่ต้องสร้าง โรงงานอุตสาหกรรมทั้งหลายไม่จำเป็นจะต้องกลัวเรื่องสิ่งแวดล้อม โยนๆเข้าไปแล้วมันจะหาย ถ้าเป็นอย่างนั้นประเทศลมจมนะครับ ต้องฟังดีๆคิดดีๆอย่าเอาความเชื่อมาชนะความรู้
ส่วนทางด้านคุณมนัส หนูสวี รองประธานมูลนิธิเกษตรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่าจริงๆแล้วที่มีนักวิชาการออกมาให้ข่าวแบบนั้นก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ในกรณีบำบัดน้ำเสียที่ท่านนักวิชาการเป็นห่วงผมเห็นด้วยกับท่านตรงที่ว่าถ้าเอาจุลินทรีย์กลุ่มยีสบาซีรัตกลุ่มเชื่อราต่างๆซึ่งมันอยู่ในน้ำหมักที่คุณบอกว่าเป็น EMแล้วเอาผสมใส่ดินบ้างใสอะไรบ้างแล้วเรียกว่า EM Ball การใช้EM Ball ชุดนี้จะไม่ได้ผลนอกจากไม่ได้ผลแล้วจะไม่ดีด้วยจะทำให้น้ำเน่าเสียยิ่งขึ้นด้วย
ต้องขอบคุณนักวิชาการท่านนั้นแต่บังเอิญนักวิชาการท่านนั้นอาจไม่ทราบว่าจุลินทรีย์ในกลุ่มที่พวกเราทำกันอยู่ทั้งประเทศเป็นจุลินทรีย์ที่ถูกผลิตโดยดร.เทรุโอะฮิหงะจากประเทศญี่ปุ่นในจุลินทรีย์กลุ่มนี้จะกินแก๊สตระกูลไข่เน่าแก๊สพิษทั้งหลายกินคาร์บอนไดออกไซด์เมื่อจุลินทรีย์เชื้อโรคอยู่ใกล้EM ที่สังเคราะห์แสงจุลินทรีย์เชื้อโรคก็จะอ่อนแอแล้วก็เสียชีวิตเพราะฉะนั้นในทฤษฏีที่พวกเรากำลังทำอยู่ในขณะนี้วันนี้คนทั้งประเทศกำลังปั้นEM บอลกันอย่างขนานใหญ่ทุกคนมีจิตใจเดียวกันก็คืออยากจะช่วยเรื่องน้ำท่วมและทุกคนได้มีประสบการณ์ในการน้ำไปใช้แล้วได้ผล
ยกตัวอย่างที่ผมได้ทำมาที่เกาะสมุยมีบ่อขยะเตาเผาขยะเสีย ขยะ57,000 ตันเน่า ชาวบ้านเดินขบวน เราใช้EM Ball EM น้ำสเปร์เข้าไปแล้วเราดูดน้ำจากบ่อขยะเอามาใส่บ่อบำบัดใส่EM Ball ลงไปใส่EM น้ำลงไป พรุ่งนี้น้ำเป็นสีชมพูมะรืนนี้น้ำเริ่มใสอีกอาทิตย์ปล่อยปลาได้แล้วเพราะฉะนั้นน้ำเน่าอยู่ในกรุงเทพและปริมณทล ในความรู้สึกผมถือว่าไม่ยากเลย
ต้อนนี้มีปัญหาน้ำท่วมส้วมเต็มเอาไปทุบใส่โถส้วม ส้วมที่เคยเต็มวันนี้เอาไปทุบใส่พรุ่งนี้ก็จะดีขึ้น แล้วมันก็ไม่ต้องสูบแล้วถ้าเอาไปใส่ในตู้เย็น ตู้เย็นมีปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็น กลิ่นอะไรต่างๆประมาณ1เดือนตู้เย็นจะไม่มีกลิ่นเลยEM Ball จะทำงานถ้าเอาไปบี้ใส่ต้นไม้ ต้นไม้จะงามมาก เพราะฉะนั้น EM Ball จะเป็นอเนกประสงค์ สำหรับตอนนี้น้ำท่วมก็เป็นเรื่องดีนะเราจะได้รู้จักประโยชน์ EM Ball กันมากขึ้น
ดร.เชิดชัย เชี่ยวธีรกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านจุลชีววิทยา คณบดีคณะเทคโนโลยีชีวภาพ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กล่าวอย่างมั่นใจว่า ขอยืนยันว่า EM Ball ใช้ได้ผลจริง แต่ที่บอกว่าการกำจัดน้ำเสียที่ดีที่สุดคือ การใช้กังหันชัยพัฒนา ด้วยหลักการเติมออกซิเจนลงไปในน้ำให้มากที่สุด อันนี้จริง แต่น้ำท่วมทั่วประเทศจะให้ไปติดตั้งกังหันทั่วประเทศมันเป็นไปไม่ได้ แต่ยังมีเชื้อจุลินทรีย์ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ออกซิเจนอีกมากมายที่สามารถนำมา บำบัดน้ำเสียได้ เพราะมันทำงานเป็นห่วงโซ่อาหารที่กินต่อกันเป็นทอดๆ โดยเฉพาะในภาวะน้ำท่วมนี้ จะมีเชื้อบาดทะยัก เชื้อโรคต่างๆ ที่เป็นอันตราย แต่เมื่อส่งจุลินทรีย์  EM ลงไป มันจะไปกินเชื้อพวกนี้ให้หมด ทำให้น้ำปลอดภัยขึ้น
วันนี้ถ้าเรามองที่ต้นเหตุ น้ำเน่าเสีย คืออะไร ในแต่ละวันคนจะทำน้ำเสียเฉลี่ย25ลิตรต่อคนต่อวันการใส่ EM ลงไปในน้ำเน่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ชาวบ้านบางส่วนบอกว่าใช้ได้ผล นักวิชาการบอกว่าไม่ได้ผลเหมือนกับเป็นการยืนอยู่กันคนละมุมความคิด วันนั้นน้องน้ำมา วันนี้น้องน้ำเริ่มเน่าส่งกลิ่นเหม็น ปัญหาที่แท้จริงมันคืออะไร วันนั้นคนทิ้งขยะกันมากขึ้น วันนั้นคนจะทำน้ำเสียเฉลี่ย25ลิตรต่อคนต่อวัน วันนั้นคนไม่ได้ให้ความสนใจกับธรรมชาติ วันนั้นคนไม่ได้จัดการกับขยะให้เป็นระบบ  วันนี้เราจึงเริ่มมองเห็นปัญหาที่เราได้ก่อขึ้น  วันนี้เราจะจัดการปัญหาน้ำเน่าเสียอย่างไรให้เป็นระบบมันเป็นคำถาม อนาคตจะเป็นคำตอบว่าเราแก้ไขปัญหาน้ำเน่าอย่างไรในวันนี้...    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น